6 ภัยอันตรายจากการ “ดื่มน้ำน้อย”

0

ชีวิตเราทุกวันนี้เต็มไปด้วยความเร่งรีบ เดี๋ยวก็ประชุม เดี๋ยวก็ทำงานต่อ จนบางทีเราก็ลืมดูแลตัวเองไปเลย โดยเฉพาะการดื่มน้ำที่เต็มแก้วยังไงเมื่อเช้า จนแล้วจนเล่าจนยังเต็มอยู่อย่างนั้น และบางคนก็ติดการดื่มน้ำเฉพาะเวลาที่ต้องการจะดื่มเท่านั้น ซึ่งบางครั้งในวันหนึ่งๆ เราอาจไม่ได้รู้สึกอยากดื่มเลยก็ได้ สัญญาณเหล่านี้แหละที่ทำให้ร่างกายของเราโหยหาน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ

และการไม่ดื่มน้ำนั้นส่งผลอันตรายต่อร่างกายเรามากกว่าที่ใครๆ หลายคนคาดคิด และบางครั้งก็อาจจะเกิดขึ้นกับเราแล้วแบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้ ดังนั้น หากใครเริ่มมีอาการเหล่านี้ก็ต้องรีบปรับตัวด่วน เพราะจะมีโรคร้ายตามมาอีกเพียบ

สัญญาณว่าร่างกายเริ่มขาดน้ำ

หากเราก็ดื่มน้ำอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าที่เราดื่มๆ ไปต่อวันเนี่ยมันเพียงพอหรือไม่ ลองสังเกตตัวเองได้จาก

วิธีสังเกตระยะสั้น

  1. ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน
  2. ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มแทบทุกครั้ง
  3. ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนจัด 

วิธีสังเกตระยะกลาง

  1. ตาแห้ง
  2. ผิวแห้งกร้านขึ้นเรื่อยๆ
  3. ปากแห้งตลอดเวลา
  4. ปวดหัวบ่อยๆ

วิธีสังเกตระยะยาว

  1. อ่อนเพลียเป็นประจำ
  2. สับสัน สูญเสียการรับรู้
  3. ความดันต่ำ

6 ภัยอันตรายจากการขาดน้ำ

สมองเสื่อม

น้ำเป็นส่วนสำคัญในการทำให้เซลล์ประสาทละสมองของเราสื่อสารกันได้ และเหมือนเป็นน้ำยาหล่อลื่นให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะน้ำตาลที่จะเป็นอาหารให้กับสมองของเรา ซึ่งหากเราขาดน้ำและอาหารสมอง จะทำให้สมองของเราอ่อนแอลง ระบบประสาททำงานได้ช้า และเกิดอาการหลงลืม ตอบสนองได้ช้า ไม่กระฉับกระเฉง 

หากคุณรู้สึกไม่สดชื่นเลยในแต่ละช่วงเวลาของวัน ลองดื่มน้ำดูนะ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณดื่มน้ำน้อยเกินไปแล้วนะ

ริดสีดวงทวาร

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าว่าน้ำเป็นเหมือนน้ำยาหล่อลื่นให้กับร่างกายของเรา ซึ่งเมื่อเราขาดน้ำ จะทำให้ภายในของเราไม่สามารถทำงานได้ดีอย่างเก่า และยิ่งเป็นในลำไส้ หากความสามารถได้การย่อย ดูดซึม และขับถ่ายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ก็จะทำให้อาหารที่เราทานลงไป ไม่ยอมออกมานั่นเอง

และเมื่ออาหารเหล่านั้นอยู่ในร่างกายเรานานเกินไป การถูกดูดซึมทุกวันๆ ก็จะทำให้สิ่งเหล่านั้นแห้งลงเรื่อยๆ และเกิดเป็นอาการท้องผูกและริดสีดวงไปในที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น การดูดซึมกากอาหารที่ไม่มีประโยชน์ อาจทำให้เราดูดซึมสารพิษหรือสิ่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกายกลับสู่ร่างกายของเราใหม่ ทั้งๆ ที่จะพยายามขับออกแล้วนะ

ปวดข้อ

ข้อต่อต่างๆ หมอนรองกระดูก กระดูกอ่อน ฯลฯ เหล่านี้จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบสูงถึง 80% ทำให้เป็นส่วนประกอบของร่างกายที่เปราะบางมากๆ แต่ก็สำคัญมากๆ เช่นกัน เมื่อกระดูกเหล่านี้ไม่ได้รับน้ำที่เพียงพอ จะทำให้การดูดซับแรงกระแทกได้น้อยลง ไปจนถึงการอักเสบได้ง่าย ทำให้เราเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ทุกเวลาที่ใช้ร่างกาย

เพราะฉะนั้น หากคุณเป็นคนเล่นกีฬา ห้ามดื่มน้ำเฉพาะเวลาที่หิวน้ำเท่านั้นเด็ดขาด! ร่างกายของคุณจำเป็นต้องรับภาระหนักกว่าคนทั่วไป ดังนั้นควรดื่มน้ำทุกครั้งที่มีโอกาส

ทางเดินปัสสาวะอักเสบ

เรื่องนี้น่าจะทราบกันดีทุกคน อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าหากขาดน้ำจะทำให้เราปัสสาวะน้อยลง แต่เรื่องที่รุนแรงกว่านั้นก็คือเมื่อเราอยากจะหรือปวดปัสสาวะ แต่พอถึงห้องน้ำมันกลับออกมาน้อยกว่าที่ขาด ไปจนถึงแทบไม่ออกมาเลยก็มี! มาถึงขั้นนี้เรียกได้ว่าอันตรายมากๆ เพราะนั่นอาจหมายถึงคุณกำลังเป็นโรงทางเดินปัสสาวะอักเสบแล้วล่ะ

เรื่องที่เลวร้ายที่สุดกับโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบไม่ใช่เพราะปวดแล้วมันไม่ออกมา หรือปวดท้องน้อยเป็นประจำ แต่มันคือการติดเชื้อในกระแสเลือดซึ่งมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมากๆ และน้อยคนนักที่จะตระหนักถึงความจริงข้อนี้

น้ำหนักขึ้น

ดูไม่น่าเชื่อสุดๆ ไม่กินไม่ดื่มแล้วน้ำหนักจะขึ้นได้อย่างไร ไหนว่าขาดน้ำละทำให้ดูดซึมสารอาหารได้น้อยไง ไม่น่าอ้วนแล้วนี่นา แต่เพราะร่างกายไม่ดูดซึมนั่นแหละที่เป็นตัวการหลักของภาวะอ้วนเลย

เหตุผลหลักๆ ก็คือเมื่อคุณทานอาหารมากเกินที่ร่างกายจะดูดซึมได้ และไม่สามารถขับออกได้ทันที สารอาหารส่วนเกินเหล่านั้นจะแปรรูปไปเป็นไขมันอยู่ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย และยิ่งเมื่อเราขาดน้ำ ระบบทางเดินและการย่อยอาหารก็มีโควต้าดูดซึมอาหารได้น้อยลง นั่นเท่ากับว่า เพียงไม่ดื่มน้ำ การทานอาหารเท่าเดิมก็อาจเท่ากับมากเกินไปได้

นอกจากนั้น การดื่มน้ำจะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มเร็วด้วยนะ หากคุณทานอาหารแบบไม่ดื่มน้ำ ภาวะอยากอาหารก็จะไม่ลดลง ความรู้สึกอิ่มก็จะน้อยลงทำให้เราทานเพลินจนเกินความสามารถที่ร่างกายจะรับมือได้ และอย่างที่คุณรู้ โรคอ้วนไม่ใช่ตอนจบ เพราะโรคแทรกซ้อนหลังจากนั้นจะตามมาราวีคุณไม่หยุดไม่หย่อนแน่นอน

อาการชักและช็อก

อาการขาดน้ำจะทำให้เลือดของเราข้นหนืดขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้การลำเลียงสารอาหารและอ็อกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้น้อยลง แร่ธาตุในร่างกายจะเกิดความไม่สมดุลกัน กล้ามเนื้อจะเกิดการหดตัวและชักเกร็ง ซึ่งบางครั้งอาจไม่อันตรายต่อชีวิตโดยตรง แต่อาจทำให้เกิดอันตรายโดยทางอื่นเช่นเกิดอาการชักขณะอาบน้ำจนล้มฟาดพื้นเป็นต้น

แต่อาการช็อกจะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายแบบตรงๆ ไม่โต๊ด เพราะความดันโลหิตจะสูงขึ้นจากการที่ร่างกายพยายามจะพาเลือดข้นหนืดของเราไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย หัวใจที่ทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนจะทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายได้ ไปจนถึงการลำเลียงอ็อกซิเจนได้น้อย สมองของเราได้รับอ็อกซิเจนน้อยลง จะทำให้เกิดภาวะช็อกจนเสียชีวิตได้

แม้ว่าทางการแพทย์จะแนะนำให้เราดื่มน้ำในปริมาณ 8-12 แก้วต่อวัน แต่จริงๆ ไม่มีใครนั่งนับหรอกว่าเราดื่มไปกี่แก้วแล้ว แล้วแก้วลิตรนับเป็นหนึ่งแก้วหรือสามแก้ว เพราะฉะนั้นทางที่ง่ายที่สุดคือดื่มหรือจิบทุกครั้งที่นึกได้ หรือทุกครั้งที่มีโอกาสเป็นประจำในระหว่างวัน โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่ร่างกายจะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ

และหากคุณอาจเคยคิดว่าเราดื่มกาแฟหรือชาไข่มุกแล้ว ทานน้ำน้อยลงได้ ในด้านหนึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นอาจก่อให้เกิดโรคในด้านอื่นๆ เช่น เบาหวานได้ ดังนั้นน้ำเปล่าจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดต่อร่างกายอยู่ดี 

แล้วชั่วโมงนี้คุณดื่มน้ำแล้วหรือยัง?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may have missed