ความถี่ของข่าวเรื่องพบคนวูบ หมดสติ และเสียชีวิตฉับพลัน เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หลายคนผวาว่าจะเกิดขึ้นกับตน เพราะ อาการวูบ คือ อาการคล้ายหมดสติชั่วคราว ที่เราไม่สามารถควบคุมร่างกายตนเองได้เลย และสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ยิ่งเดี๋ยวนี้ สภาพาอากาศแปรปรวน เมื่อร้อนก็ร้อนจัด จนทำให้มีคนเสียชีวิตจากอาการฮีทสโตรกไปไม่น้อย ไหนจะโรคใหม่ ๆ ที่แฝงตัวไม่ให้รู้ตัว รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการกิน การทำงาน และการพักผ่อน 

วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเรื่องของอาการวูบกันค่ะ สาเหตุ อาการ และการป้องกัน เพื่อทำความเข้าใจ และรู้วิธีป้องกันตนเองในเบื้องต้น ช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดอาการวูบ 

อาการวูบเกิดสาเหตุอะไร 

อาการวูบชั่วขณะ หมดสติ เกิดจากการที่สมองขาดอากาศและเลือดไปหล่อเลี้ยงในช่วงเวลาสั้น ๆ หรืออาจเกิดจากมีเนื้องอกในสมอง สมองทำงานผิดปกติ หรืออาจบ่งบอกถึงสัญญาณของโรคอื่น 

  • เปลี่ยนอิริยาบถกระทันหัน 
  • ยืนเป็นเวลานาน 
  • มีอาการอ่อนเพลีย
  • ความดันต่ำ หรือ หลอดเลือดขยายตัว 
  • โรคเส้นเลือดในสมองตีบชั่วคราว 
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพฤกษ์ 
  • มีอาการชักจากโรคลมบ้าหมู
  • มีโรคความผิดปกติของหัวใจ 
  • ระบบประสาทหูชั้นในผิดปกติ 
  • ใช้สารเสพติด 
  • กำลังตั้งครรภ์ 
  • มีภาวะขาดน้ำ อาจเนื่องจากเจ็บป่วย ท้องเสีย อาเจียน เหงื่อออกมาก เป็นต้น 
  • ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เช่น สภาพอากาศร้อนจัด อยู่ในสถานที่แออัด เป็นต้น 
  • การใช้ยาบางชนิด

อาการวูบเป็นอย่างไร 

  • คลื่นไส้ วิงเวียน
  • ปวดศีรษะ 
  • สับสน มึนงง ง่วง ซึม 
  • พูดไม่ชัด 
  • ตัวสั่น ผิวซีด
  • รู้สึกชา 
  • อ่อนเพลีย 
  • ได้ยินเสียงไกล ๆ 
  • หัวใจเต้นเร็ว 
  • ชีพจรเต้นอ่อน 
  • เหงื่อออกเยอะกระทันหัน 
  • อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 
  • การมองเห็นผิดปกติ เช่น เห็นภาพไม่ชัด เห็นเป็นจุด 

อาการวูบแบบไหนส่อถึงอันตราย ควรรีบไปพบแพทย์ 

  • หมดสติ
  • มีอาการวูบ ชักเกร็ง 
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรงครึ่งซีก ชาครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด 
  • เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ 
  • มีโรคประจำตัวบางประเภท เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ
  • มีอาการเหมือนจะวูบแต่ไม่วูบ 
  • สงสัยว่าตั้งครรภ์ 
  • มีอาการวูบมากกว่า 1 ครั้ง และมักจะเป็นนานกว่า 2 นาที จึงจะได้สติ

นอกจากนี้อาการวูบ หมดสติ อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงอื่น ๆ ได้เช่นกัน เช่น 

  • โรคลมชัก 
  • โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ 
  • โรคหลอดเลือดสมองตีบ 
  • โรคหลอดเลือดสมองแตก 

อาการวูบ หมดสติ ป้องกันได้อย่างไร 

  • ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ 
  • พักผ่อนให้เพียงพอ 
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ 
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน 
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน  

จากข้อมูล Framingham Heart Study เผยว่า ส่วนใหญ่จะพบอาการวูบ หมดสติ ในผู้สูงอายุถึง 23% ในขณะที่พบได้ในกลุ่มคนทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 3% และผู้ที่เคยมีประวัติอาการวูบมาก่อน มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นไดอีก 1 ใน 3 เท่า ซึ่งมักจะเกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ อันเนื่องจากความเสื่อมประสิทธิภาพการทำงานของระบบอวัยวะที่เกี่ยวข้องโดยตรง อาจส่งผลให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้เมื่อเกิดอาการวูบ เช่น ขณะขับรถ ทำงานกับเครื่องจักร เป็นต้น รวมไปถึงในสายงานอาชีพบางประเภท เช่น พนักงานขับรถ นักบิน นักประดาน้ำ คนงานก่อสร้าง ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหลังจากมีอาการวูบหรือหมดสติได้ 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may have missed